3 เหตุผลทำไมไซเลียม ฮัสก์ คือตัวช่วยแก้ท้องผูกที่ปลอดภัย - Featured image

3 เหตุผลทำไมไซเลียม ฮัสก์ คือตัวช่วยแก้ท้องผูกที่ปลอดภัย

ใครที่อยากแก้ท้องผูก ถ่ายยาก และกำลังมองหายาระบายที่ปลอดภัยไว้เป็นตัวช่วย คงจะเคยได้ยินชื่อไซเลียม ฮัสก์ ยาระบายที่ผลิตจากไฟเบอร์ธรรมชาติซึ่งขึ้นชื่อว่ามีความปลอดภัยสูง

แต่ขึ้นชื่อว่า “ยาระบาย” จะชนิดไหน ประเภทใด ก็คงจะต้องมีทั้งจุดดีและข้อจำกัดทั้งนั้น บทความนี้ Berlin GI Life จะขยายความว่าทำไมไซเลียม ฮัสก์ ตัวช่วยแก้ท้องผูกที่ปลอดภัยค่ะ

ปัญหาท้องผูกกับยาระบาย

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าปัญหาท้องผูกนั้นมีหลายระดับ และการรักษาเบื้องต้นที่ดีที่สุด (แต่เรามักจะทำไม่ค่อยสำเร็จ) ก็คือการเริ่มที่การปรับพฤติกรรมในการทานอาหาร การดื่มน้ำ และการออกกำลังกาย แต่หากการปรับพฤติกรรมไม่ได้ผล ทางเลือกในการใช้ยาระบายก็มีความจำเป็นค่ะ

ยาระบายที่มีใช้กันในปัจจุบันนั้น จะแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ตามการออกฤทธิ์ คือ

  • ยาระบายชนิดเพิ่มปริมาณอุจจาระ (bulk-forming laxatives)
  • ยาระบายชนิดเพิ่มน้ำในลำไส้ (osmotic laxatives)
  • ยาระบายชนิดกระตุ้นการทำงานของลำไส้ (stimulant laxatives)
  • ยาระบายชนิดทำให้อุจจาระนุ่ม (stool softeners)

ไซเลียม ฮัสก์ จัดอยู่ในยาระบายชนิดเพิ่มปริมาณอุจจาระ (bulk-forming laxatives) ซึ่งเป็นกลุ่มยาระบายที่มีความปลอดภัยสูง หากใช้อย่างถูกวิธี

ไซเลียม ฮัสก์เป็นยาระบายที่ผลิตโดยใช้ไฟเบอร์ธรรมชาติ คือไฟเบอร์จากเมล็ดเทียนเกล็ดหอย (หรือเมล็ดไซเลียม ฮัสก์) ซึ่งเติมเข้าไปในร่างกายเพื่อต้องการให้ออกฤทธิ์ในการเพิ่มปริมาณอุจจาระ

ไฟเบอร์ไซเลียม ฮัสก์ เป็นไฟเบอร์ชนิดที่ละลายในน้ำได้ดี (soluble dietary fiber) เมื่อเข้าไปในร่างกายเราก็จะเกิดการพองตัวและปรับสภาพเป็นเจลหนืด จึงช่วยในการดูดน้ำไว้ในลำไส้ใหญ่ ทำให้ลำไส้ใหญ่ขยาย ส่งผลในการช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวและเกิดการขับถ่าย

พูดง่าย ๆ เลยก็คือ การทานไซเลียม ฮัสก์ ก็คล้ายกับการที่เราทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อเข้าไปช่วยระบบการทำงานของลำไส้ใหญ่ให้เกิดภาวะสมดุล และขับถ่ายได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ

3 เหตุผลว่าทำไมไซเลียม ฮัสก์ ถึงเป็นตัวช่วยแก้ท้องผูกที่ปลอดภัย

1. ไซเลียม ฮัสก์ เป็นไฟเบอร์ธรรมชาติ

อันที่จริงแล้ว ยาระบายชนิดเพิ่มปริมาณอุจจาระ (bulk-forming laxatives) ก็มีหลากหลายรูปแบบนะคะ มีทั้งการเติมไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ (insoluble dietary fiber) ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ดี ไฟเบอร์แบบกึ่งสังเคราะห์  ทั้งนี้ไซเลียม ฮัสก์ เป็นยาระบายในกลุ่มนี้ที่เป็นไฟเบอร์ธรรมชาติ (ชนิดละลายน้ำได้ดี) ผลิตจากพืชคือเมล็ดเทียนเกล็ดหอย ซึ่งแน่นอนว่าดีต่อสุขภาพในระยะยาวมากกว่าใช้ไฟเบอร์กึ่งสังเคราะห์

2. ไซเลียม ฮัสก์ หยุดรับประทานก็ยังขับถ่ายได้เองตามปกติ

ไซเลียม ฮัสก์ 95% พองตัวได้ถึง 80 เท่าของน้ำหนักตัวเอง จึงช่วยเพิ่มน้ำหนักอุจจาระ และมีผลทำให้สำไส้ใหญ่บีบตัวตามกลไกธรรมชาติ ไม่มีฤทธิ์ในการเร่งหรือบีบลำไส้ใหญ่โดยตรงจึงไม่ทำให้โครงสร้างการทำงานของระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลง หรือสูญเสียความสามารถในการขับถ่ายได้เองตามธรรมชาติไป

การใช้ไซเลียม ฮัสก์ สามารถใช้ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการบริโภคและการดูแลสุขภาพร่างกายเพื่อสร้างสมดุลที่ปกติของระบบทางเดินอาหาร ดังนั้น เมื่ออาการท้องผูกดีขึ้น สามารถค่อย ๆ ลดปริมาณการใช้ยาระบายลงได้ตามความเหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายค่ะ

3. ไซเลียม ฮัสก์ มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่าเป็นยาระบาย

ไซเลียม ฮัสก์ 95% คุณภาพสูง ที่ขึ้นทะเบียนเป็นยา จะได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย ผ่านการตรวจสอบเชื้อปนเปื้อนก่อนการผลิต ปราศจากน้ำตาล และสารกันเสีย คุณจึงสามารถทานได้อย่างปลอดภัย

นอกเหนือจากคุณสมบัติในการเป็นยาระบายแล้ว ไฟเบอร์ธรรมชาติจากไซเลียม ฮัสก์ ยังช่วยในการชะลอการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน ช่วยไม่ให้ร่างกายดูดซึมเร็วเกินไป จึงลดความเสี่ยงโรคอ้วน ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ด้วยค่ะ

สรุป

ไซเลียม ฮัสก์ เป็นยาระบายจากไฟเบอร์ธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องผูกเนื่องจากรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อยและลำไส้ยังสามารถทำงานได้ดี

สำหรับผู้ที่มีปัญหาลำไส้บีบตัวไม่ดี อาจจะต้องใช้ ไซเลียม ฮัสก์ ร่วมกับยาระบายในกลุ่มอื่นเพื่อช่วยในการบีบตัวของลำไส้นะคะ ส่วนผู้ที่ประเมินตนเองแล้วพบว่า ในชีวิตประจำวันพฤติกรรมการบริโภคทานผักหรือได้รับไฟเบอร์ค่อนข้างน้อย สามารถรับประทานไซเลียม ฮัสก์ เพื่อป้องกันอาการท้องผูกได้ โดยควรรับประทานควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการบริโภคด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวค่ะ

สุขภาพดีเริ่มต้นที่ทางเดินอาหารนะคะ

Berlin GI Life

Related Articles

บทความที่คุณอาจสนใจ

ลำไส้สุขภาพดีแข็งแรง ด้วยประโยชน์ของไพรไบโอติกส์

ลำไส้สุขภาพดีแข็งแรง ด้วยประโยชน์ของโพรไบโอติกส์

โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร พบได้บ่อยกับทุกเพศทุกวัยในปัจจุบัน Berling GI Life จะพาไปทำความรู้จักกับประโยชน์ของโพรไบโอติกส์ที่มีต่อระบบทางเดินอาหารของเราค่ะ

อ่านต่อ »
นานแค่ไหนกว่าโพรไบโอติกส์ที่กินไปจะเห็นผล - featured image

นานแค่ไหนกว่าโพรไบโอติกส์ที่กินไปจะเห็นผล

จะรู้ได้อย่างไรว่าโพรไบโอติกส์ที่ทานไปนั้นได้ผลจริง ๆ แล้วจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหนจึงจะทำให้โพรไบโอติกส์ที่ทานไปออกดอกออกผล มาไขข้อสงสัยในบทความนี้เลยค่ะ

อ่านต่อ »
รู้ได้อย่างไร ว่าร่างกายเราต้องการโพรไบโอติกส์ - featured image

รู้ได้อย่างไร ว่าร่างกายเราต้องการโพรไบโอติกส์ ?

วิธีสังเกตอาการผิดปกติ หรืออาการเจ็บป่วยในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายเราซึ่งจะปรากฏภายหลังจากโพรไบโอติกส์ลดจำนวนลง ซึ่งมีดังในบทความนี้ค่ะ

อ่านต่อ »